ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) จะเปิดตัวใบรับฝากแบบเศษส่วน (DRx) เป็นครั้งแรก เพื่อทำให้หุ้นทั่วโลกที่บินสูงมีราคาไม่แพงในตลาดหุ้นไทย รับจดทะเบียนบริษัท
DRx สองรายการแรกที่อิงกับ Apple และ Tesla เป็นหุ้นอ้างอิง ซึ่งออกโดย บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) จะเริ่มซื้อขายในวันที่ 29 กันยายน
ลงทุนในหุ้นชั้นนำของโลกด้วยเงินเพียงเล็กน้อย
นายปกรณ์ ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ตลท. กล่าวว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นส่วนสำคัญของแผนกลยุทธ์ของ ตลท. เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุน ริเริ่มล่าสุดคือการเปิดตัว DRx ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับพฤติกรรมการลงทุนของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการลงทุนในหุ้นชั้นนำของโลกด้วยเงินจำนวนไม่มาก
DRx คืออะไร?
DRx คือ DR ประเภทหนึ่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้รับผลประโยชน์คล้ายกับการลงทุนโดยตรงในหุ้นต่างประเทศ ผู้ลงทุนสามารถซื้อหรือขายเศษของหน่วย DR (เริ่มต้นที่ 0.0001 หน่วย) ในเวลาทำการซื้อขายหลักทรัพย์อ้างอิงในตลาดต่างประเทศ ชั่วโมงการซื้อขายสำหรับ APL80X และ TSLA80X ซึ่งอ้างอิงจากหุ้น Apple Inc. และ Tesla Inc. ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq ตามลำดับ จะเริ่มตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันถัดไป
ผยง ศรีวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ในฐานะธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศไทย ธนาคารกรุงไทยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านการลงทุนและการออมของลูกค้า DRx สองตัวที่เป็นตัวแทนของหุ้นของ Apple Inc. และ Tesla, Inc. ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐฯ มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการเติบโตสูง นอกจากนี้นักลงทุนชาวไทยยังคุ้นเคยกันดี
DRx สองตัว ได้แก่ AAPL80X (Apple DRx) และ TSLA80X (Tesla DRx) จะพร้อมให้นักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเวลาเดียวกัน
ธนาคารกรุงไทยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อองค์กรและคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม สิ่งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของกรุงไทยในฐานะผู้นำตลาดด้านโซลูชั่นทางการเงิน ESG ที่พร้อมบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยการพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าทั้งหมดผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและใช้นวัตกรรมเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศ เศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน
นอกจากนี้ยังมุ่งตอบสนองความต้องการด้านการออมและการลงทุนของลูกค้าด้วยการขจัดข้อจำกัดและช่วยให้นักลงทุนไทยโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้อย่างง่ายดายและสะดวก
Apple Inc. เป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์นวัตกรรมและเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นบุกเบิกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Mac, iPhone, Apple Watch และ iPad มีฐานลูกค้าที่ภักดีเนื่องจากความสามารถในการสร้างระบบนิเวศที่ทำให้อุปกรณ์ของ Apple ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการ ส่งผลให้ฐานลูกค้าของ Apple เติบโตอย่างต่อเนื่องและรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ เทสลาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์และเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รายใหญ่ที่สุดในโลก
บริษัทได้ลงทุนอย่างหนักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและขีดความสามารถเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น เทสลาบันทึกอัตรากำไรที่ 25.3% ในปี 2564 และ 27.2% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 และตั้งเป้าที่จะเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน
ข้อมูลจาก https://www.thailand-business-news.com/